ลมหนาวย่างเข้ามา เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงฤดูแห่งการเก็บเกี่ยว สำหรับชาวนาที่มีพื้นที่บริเวณบ้านเหลือเฟือ การนำข้าวมาตากหลังจากกระบวนการเก็บเกี่ยวคงไม่ใช่อุปสรรคอะไรมากมาย เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แต่หากกับชาวนาผู้ที่มีพื้นที่จำกัด การมองหาทางออกจึงมีตัวเลือกไม่มากนัก ลานสาธารณะที่มีก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ ถนนจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่คนเหล่านี้เลือก

ชาวนากำลังตากข้าวในลานสาธารณะของหมู่บ้าน

ถึงแม้  พ.ร.บ.ทางหลวง 2535 มาตรา 39 มาตรา 72 จะกำหนดไว้ว่า “ห้ามนำสิ่งใดมาวางขวางหรือวางบนทางหลวง หรือกระทำด้วยประการใดๆ บนทางหลวงในลักษณะที่อาจเกิดอันตรายหรือเสียหายแก่ยานพาหนะหรือบุคคล หากฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ อาจเกิดเป็นเชื้อราอันเนื่องมาจากความชื้น

แต่ชาวนาบ้านมะเมียงใต้ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์รายหนึ่งเล่าว่า ที่เลือกตากข้าวบนพื้นถนนเนื่องจากพื้นที่สาธารณะมีไม่เพียงพอ หากทิ้งไว้นาน ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวมาทั้งหมดอาจเกิดความเสียหาย อีกทั้งตนเองเป็นผู้สูงอายุ ไม่สามารถขนย้ายข้าวไปยังลานของหมู่บ้านที่ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากตัวบ้านของเธอ

ชาวนารายหนึ่งกำลังเก็บข้าวเปลือกของตน หลังจากตากบนถนนมาเป็นระยะเวลา 2 วัน

ตลอดระยะเวลา 2 – 3 วันของการตากข้าว ชาวนารายนี้จึงพยายามรบกวนพื้นที่ของถนนให้น้อยที่สุด เพราะเธอเองก็เข้าใจถึงความลำบากของผู้ที่ขับรถสัญจรไปมา ในยามแดด ออกข้าวจะถูกแผ่ออกมา กินพื้นที่ประมาณ 70% ของ 1 เลนถนน แต่เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ข้าวเปลือกทั้งหมดจะถูกลากกลับมากองไว้ข้างพื้นถนน เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุในยามค่ำคืน

ด้านนักศึกษาฝึกสอนผู้ที่ที่ต้องใช้ถนนเส้นทางนี้ในการสัญจรในทุกวันกลับมองว่า การที่ชาวนานำข้าวขึ้นมาตากอยู่บนถนนนั้นเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่ขับขี่เป็นอย่างมาก ทัศนวิสัยในการมองเห็นจะลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ และกลายเป็นความเสียหาย ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บ ชาวนาเองก็ต้องสูญเสียผลผลิตที่เก็บเกี่ยวมา โดยนักศึกษารายนี้เล่าต่ออีกว่า

“ปัญหาเหล่านี้ควรได้รับการแก้ไข ซึ่งชาวนาควรมีพื้นที่ในการตากข้าวโดยเฉพาะและเพียงพอต่อความต้องการ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และความเสียหายต่อผลผลิตที่ชาวนาอาจต้องแบกรับ”

ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ อย่างไรก็ตาม วิถีชีวิตของชาวบ้านจะสามารถดำเนินไปควบคู่กับความถูกต้องได้หรือไม่ คงขึ้นอยู่กับว่าผู้มีอำนาจเองจะรับฟังเสียงที่ชาวบ้านเปล่งออกมาเพียงใด เพราะกลุ่มคนตัวเล็กตัวน้อยเหล่านี้มักถูกสังคมมองว่าเป็นภาระ และผลักออกให้กลายเป็นกลุ่มคนชายขอบที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ดังนั้นการตากข้าวบนพื้นถนนจึงกลายมาเป็นข้อถกเถียงที่มีให้เราได้เห็นในทุกปี