23 ส.ค.2566 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้จัดกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ ‘การเมืองเรื่องเสียวๆ’ โดยได้เชิญ โชติรส นาคสุทธิ์ หรือลูกแก้ว นักเขียน นักวิชาการอิสระ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับ การเมืองที่เกี่ยวข้องกับเนื้อตัว ร่างกาย เรื่องเสียว โดยได้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า black cherry ความโหยหาเป็นชื่อยาเสพติด เป็นหนังสือที่เขียนถึงความสัมพันธ์และเรื่องของอำนาจทางการเมืองซ้อนอยู่ในเนื้อหาได้อย่างน่าสนใจ
การเมืองเรื่องเสียวๆ คืออะไร
ลูกแก้วกล่าวว่า มันคืออำนาจที่แนบเนียบที่สุดในชีวิตมนุษย์ ยกตัวอย่างว่าทำไมผู้หญิงถึงถูกทำร้ายร่างกาย แล้วไม่ยอมออกพูด ซึ่งพอเราเห็นอะไรแบบนี้เราก็ตัดสินว่า ก็ไม่ยอมออกมาเอง แต่จริงๆแล้วมันมีเงื่อนไขเยอะมากในความสัมพันธ์ มันมีอำนาจบางอย่างที่สามารถตัดสินชีวิตของคนๆหนึ่งได้ อีกทั้งสังคมหล่อหลอมเราขึ้นมา เราชอบแบบไหน เราจะมีรสนิยมแบบไหน ไล่ไปจนถึง Consent (การยินยอม) ว่าทำไมเราก็รักแฟนเรานะ แต่เราไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่พอแฟนขอมีอะไรด้วย ทำไมเราถึงไม่กล้าปฎิเสธ เพราะอะไร เพราะเกิดในประเทศนี้ไง ประเทศที่ตั้งแต่เรียนแม้แต่สีของถุงเท้าเรายังเลือกเองไม่ได้ ชีวิตนี้ผู้ใหญ่ให้ทำอะไรเราก็ต้องทำ เราไม่เคยคิดอะไรได้ด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่แปลกเลยที่เด็กโตมาแล้วจะไม่กล้าปฏิเสธเรื่องการมีเซ็กส์ ถ้าถามว่าทำไมการเมืองต้องเป็นเรื่องเสียวๆ สำหรับเรามองว่า การเมืองเชื่อมโยงกับทุกอย่าง
เพศกับการเมืองเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ลูกแก้ว กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องของเพศจะถูกผลักดันและสนับสนุนจากทางรัฐบาลน้อยมาก ยกตัวอย่างเช่น เรื่องผ้าอนามัยฟรี ที่เราพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น ก็จะมีคนตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งนี้ว่าควรมีหรือเปล่า ทำไมเราไม่ชื้อเอง ซึ่งเรามองว่าพอเป็นเรื่องเพศมักจะถูกมองข้าม
อีกทั้งลูกแก้วยังได้เล่าถึง วัยเรียนของเธอ ครั้งยังอายุน้อยด้วยซ้ำว่าเธอถูกโรงเรียนละเมิดสิทธิเธออย่างไรบ้าง “ใจแตก” “ไปมีอะไรกับผู้ชาย” คำพูดเล่านี้ล้วนมาจากผู้เป็นครูในตอนที่เธอถูกเรียกให้เข้าไปพบที่ห้องปกครอง ในตอนนั้นเธอยอมรับว่ากลัว สั่น คิดซ้ำๆ ว่าเธอทำให้ทุกคนผิดหวัง แต่มาในวันนี้ เธอมองกลับไปว่า ทำไมครูพวกนั้น ถึงได้ด่าท้อเธอด้วยคำเล่านั้น ทั้งที่เธออายุแค่ 15-16 ปีเอง ‘เพราะไม่รู้จักสิทธิในร่างกายของตนเอง จึงไม่กล้าส่งเสียง’ ยุคสมัยหนึ่ง การเป็นตัวเองมันยากมาก การที่จะไปไหนแล้วไม่ใส่เสื้อใน การที่จะมาบรรยายในมหาวิทยาลัยแล้วใส่เสื้อเปลือยหลังมาเป็นเรื่องที่แปลกมาก ในหนังสือของเรามันอธิบายถึงการเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นตัวเองแต่ทำไมถึงถูกโบยตีอย่างหนักหน่วงกว่าที่เราจะได้เป็นเรา แต่ด้วยความเป็นมนุษย์ผู้หญิง มันมีแกนบางอย่างที่ผู้ใหญ่เขาจะใช้ในการเชฟตัวตนเรา สั่งสอนเรา หรือผลักเราไปเป็นผู้หญิงที่ดีหรือไม่ดี แค่เพียงเพราะเราทำอะไรที่ต่างออกไปจากสิ่งที่เขาคิด ตอนเด็กๆเราเคยกลัวห้องปกครอง เพราะอะไร เพราะเขามีอำนาจในการตัดสินเรา เช่น ตัดคะแนนเรา สามารถไล่เราออกจากโรงเรียนได้ เชิญผู้ปกครองมา ซึ่งเขามีอำนาจตรงนี้ มันเลยทำให้เรากลัว แต่ปัจจุบันมีบางอย่างที่ดีขึ้น เพราะอำนาจนั้นกำลังจะถูกโค่น เพราะมีสื่อเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้อำนาจเหล่านี้ถูกต่อลอง ต่อต้าน ตรวจสอบตั้งคำถามกันมากขึ้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้มันมีอยู่ในการเมือง โรงเรียน มหาวิทยาลัย และอำนาจก็มีเรื่องเพศด้วยเช่นกัน ในความสัมพันธ์มันมีอำนาจอยู่ ในเซ็กส์ก็มีอำนาจ มันจะเป็นเรื่องของการต่อรอง ต่อต้านกัน ยกตัวอย่างครูฝ่ายปกครองที่มีอำนาจ
ลูกแก้วย้ำว่า เธอผ่านมันมาได้เพราะมีแม่ที่คอยยืนหยัดเคียงข้างเธอ เอากับผู้ชายแล้วอย่างไร ได้ใส่ถุงยางป้องกันหรือไม่ แค่นั้น เธอถึงได้มองว่า ใช่ เธอแรดแล้วอย่างไร แต่ทว่าก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีพ่อแม่เคียงข้างคอยยืนหยัด ช่วยเหลือ สนับสนุน จึงอยากให้ทุกคน ยืนหยัดเพื่อตัวเอง เพราะว่าคุณนั้นอาจจะเป็นคนสำคัญของใครบางคน คุณเองก็อย่าลืมที่จะยืนหยัด ช่วยเหลือ สนับสนุน ส่งเสียง โดยเฉพาะกับเรื่องเพศ
ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบไหน หากมีการต่อรองเกิดขึ้น แสดงว่าอำนาจของคนทั้งสองไม่เท่ากัน เซ็กส์ นักเรียนกับคุณครู ถึงได้มีข่าวครูคุกคามเด็กนักเรียนบ่อยครั้ง ทุบตีทำร้าย อ้างว่าต้องการให้เรียนเก่ง สามีทำร้ายภรรยา อ้างว่ารัก ความเท่าเทียมในความสัมพันธ์ลักษณะนี้อธิบายง่ายน้อยว่าคำว่าเท่าเทียมในประชาธิปไตย ผู้คนที่เรียกตนว่าเป็นประชาธิปไตย บางคนยังไม่เข้าใจถึงความเท่าเทียมทางเพศเลยด้วยซ้ำ
