โจ้ เจ้าของร้านจิงโจ้

บนถนนหลักเมือง จังหวัดศรีสะเกษ มีร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่เปิดร้านริมฟุตบาท เป็นร้านที่ทำกาแฟขายท้ายรถมอเตอร์ไซต์

บาริสต้าร้านกาแฟริมฟุตบาทที่กล่าวทักทายลูกค้าด้วยเสียงที่สดใส ทำให้เป็นความประทับใจแรกที่ดี และทำให้หลายคนตัดสินใจเลือกซื้อกาแฟร้านนี้ ด้วยราคาที่เป็นมิตร บวกกับความสะดวกซื้อที่จอดรถ และสั่งเพียงแป๊บเดียวก็ได้กาแฟมาดื่มโดยที่ไม่ต้องรอนาน เลยทำให้คนแวะเวียนมาซื้อบ่อยๆ

เดอะลาวเด้อ เลยพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ โจ้ เจ้าของร้านกาแฟจิงโจ้ กาแฟริมฟุตบาท ที่หลายคนที่ขับรถผ่านอาจจะคุ้นตากับร้านเล็กๆ นี้

โจ้ เจ้าของร้านจิงโจ้

ทำไมถึงเปิดร้านนี้

ต้องย้อนไปเมื่อสามปีที่แล้ว กลับมาอยู่บ้าน เมื่อก่อนทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในพัทยา แล้วช่วงนั้นป่วย บวกกับเป็นโควิดด้วย แล้วแม่ก็เลยบอกให้กลับมาอยู่ที่บ้าน เพราะอยู่ที่นั่นคนเดียวเลยกลัว ก็เลยได้กลับมาอยู่ที่บ้าน แล้วที่นี่ก็หาดูเพื่อให้ไม่ให้กลับมาอยู่บ้านเฉยๆ เลยเปิดไปเจอรายการของคุณว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์ รายการว่านไปเรื่อยจะมีพี่คนหนึ่งที่แกทำร้านแบบนี้แหละเป็นร้านกาแฟแล้วก็ขายในรถมอเตอร์ไซต์ พอเปิดเข้าไปดูเขาก็บอกว่าตอนแรกก็ขายอยู่บนคอนโด แต่พอยอดขายมันไม่ได้เท่าไหร่เขาก็ตัดสินใจลงมาขายอยู่ที่หน้าคอนโดก็จะมีตู้ใบหนึ่ง ถังน้ำแข็งใบหนึ่ง จะขายแค่เมนูเย็นกับร้อน ก็เลยอยากลองทำ เพราะว่าตัวเองก็พอมีพื้นฐานในการทำกาแฟมาก่อน ก็เลยอยากลองทำดู พอได้ลองแล้วก็รู้สึกว่ามันโอเคดี ช่วงแรกๆ มันก็ไม่ได้มั่นใจในฝีมือตัวเองเท่าไหร่หรอกแต่ก็ลองขายดู ช่วงอาทิตย์แรกมีคนโทรมาด่าเลยว่า “ถ้าจะชงแบบนี้ ไม่ต้องชงมาขายหรอก มันเหมือนกับน้ำเปล่าที่ผสมกาแฟเฉยๆ” ก็เลยปรับสูตรให้ ทดลอง แล้วก็ลองมาเรื่อยๆ และอยู่ตัวก็เลยขายมาเรื่อยๆ ตั้งแต่นั้นมา และอีกหนึ่งคนที่สำคัญคือแฟน เขาเป็นคนช่วยคิด เป็นคนแบบ ออกเงินลงทุนให้ก่อน ถ้าไม่มีเค้าก็ไม่มีเราในวันนี้

ลูกค้าวันไหนเยอะที่สุด

วันที่เขาจอดรถฝั่งตรงข้าม เพราะว่ามันจะมีการจอดรถสลับฝั่งกันวันคู่ วันคี่ ถ้าวันไหนโดนที่รถจอดวันคู่รถก็จะโล่งหน่อย แต่ถ้าวันไหนที่เป็นวันคี่รถก็จะเว้นช่องไว้ให้เราขาย แต่ส่วนมากที่มาจอดก็จะเป็นคนที่มาทำงานแถวนี้

ลูกค้าประจำ

ส่วนมากลูกค้าประจำจะเป็นครู เพราะว่าตรงนี้มันอยู่ในละแวกโรงเรียน จะมีครู นักศึกษา แล้วก็พนักงานที่อยู่ในโรงพยาบาล เพราะว่าเส้นนี้จะผ่านที่ทำงานเยอะ ศูนย์ราชการต่างๆ มีทั้งโรงเรียน ศูนย์ราชการ โรงเรียนประปราย แต่เด็กๆ ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่

มีการเตรียมของต่อวันเยอะไหม

ถ้าเป็นอย่างแก้วก็ไม่ได้เอามาเผื่อ คิดว่าขายแค่นี้ก็พอแล้ว เอามาแค่วันละแถวก็พอแล้ว แต่ก่อนก็มีการซื้อของตุนไว้เยอะๆ แต่พอขายไม่ออกก็เครียด ทุกวันนี้จากที่ซื้อแก้วครั้งละลัง เปลี่ยนมาเป็นซื้อวันครั้ง 4 – 5 แถวประมาณนั้น ไม่ต้องตุนของขนาดนั้นหรือต้องลงทุนครั้งเดียว เพราะมันอาจจะจมทุนก็ได้

เมนูแนะนำ

ส่วนมากกาแฟก็ทั่ว ๆ ไป แล้วว่าจะชอบลองทำเมนูใหม่ๆ ชอบเอาน้ำผลไม้มาผสมกับ นม ชาต่างๆ

ทำไมถึงเลือกขายตรงนี้

ตอนแรกก็ขับรถดูว่าจะไปขายตรงไหนดี ตอนแรกขับไปดูที่สำนักงานที่ดิน แถวขนส่งมันก็ไกล แต่ถามว่ามีคนไปไหม ก็มีคนไปเพราะว่าตรงนั้นเป็นศูนย์ราชการแต่ว่ามันก็ไกล แต่ว่าคนส่วนมากจะทำงานแถวนี้มากกว่าก็เลยขับรถมาดู ตอนแรกไม่ได้ขายตรงนี้แต่พอดีว่ามีพี่คนขายต้นไม้เขาเรียกมาให้ขายตรงนี้ บวกกับตรงนี้ว่าพอดี แล้วคนก็ขับผ่านบ่อย ก็เลยได้มาอยู่ตรงนี้เลย

ในสถานการณ์ที่ร้านกาแฟเพิ่มจำนวนมากขึ้น อะไรเป็นจุดเด่นของร้าน

คิดว่าจุดเด่นของร้านคือกาแฟขายถูกราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 40 บาท เอามาวัดเลยไม่มีใครขายถูกเท่านี้เลย ส่วนหนึ่งที่ขายราคานี้เลยคือ เราไม่มีต้นทุน ค่าจ้าง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม มันก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องขายแพงเท่าคนอื่น อีกอยากหนึ่งคือลูกค้าบางคนเขาติดใจที่เรายิ้มแย้ม ขอบคุณ การมีสัมมาคารวะ

ถ้าเกิดว่าไม่ได้ทำร้านกาแฟนี้แล้ว อยากจะทำอะไร

ก็ยังอยากทำร้านกาแฟเป็นของตัวเอง แต่ถ้าเกิดว่าทำที่ตัวเองก็อาจจะอยู่นอกเมืองไปหน่อย ถ้าเช่าที่ในเมืองก็อาจจะแพงไป อย่างตึกแถวนี้ก็จ่ายเดือนละ 9,000 บาท มันแพงไปสำหรับเรา จริง ๆ แล้วเราเรียนมาก็อยากทำอาชีพรับราชการ แต่สิ่งที่ทำตอนนี้ก็ดีอยู่สำหรับเรา เราทำคนเดียวเราก็ได้คนเดียว