ภาพการแสดงของวงหมอลำระเบียบวาทะศิลป์บนเวทีบิ๊กเมาน์เท่น

“เราไม่เคยคิดไม่เคยฝัน ว่าเราจะถูกเลือกเป็น 1 ในการแสดงบนเวทีบิ๊กเมาน์เท่น” 

แม็ค นัฐนรินทร์ พิธีกรปากหวานแห่งคณะหมอลำ ‘ระเบียบวาทะศิลป์’  เปิดเผยกับทาง ‘เดอะลาวเด้อ’ พร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม เพราะระเบียบวาทะศิลป์เป็นคณะหมอลำวงแรกที่ได้อยู่บนเวทีเทศกาลดนตรีระดับประเทศ อย่างบิ๊กเมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล 2022 เมื่อวันที่ 11 – 12 ธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา แม็คบอกว่า เต็มไปด้วยความกดดัน ทั้งเวลาในการแสดง ต้องแม่นสคริปต์งาน เพราะทางบิ๊กเมาน์เท่นนั้นให้ความสำคัญกับเวลาเป็นอย่างมาก 

“เมื่อเรามีเวลาที่ถูกกำหนดมาอย่างชัดเจน ก็ต้องทำให้ทันเวลาเป๊ะๆ แต่ทว่าเวทีที่ทางระเบียบวาทะศิลป์คุยกันหลังม่านว่าขอให้มีคนดูพันสองพันคนก็เพียงพอ กลับเป็นเวทีที่มีคนดูเป็นหลักสามหมื่นสี่หมื่นคน นั่นเป็นปรากฏการณ์เหนือความคาดหมาย มันได้สร้างความประทับใจให้กับทุกคนในคณะเป็นอย่างมาก” 

ปรับตัวตามผู้ฟัง นั่นคือสิ่งที่ดึงดูดคน

ต่อให้เป็นการแสดงบนเวทีระดับประเทศ แม็คย้ำว่า ระเบียบวาทะศิลป์ยังคงความเป็นหมอลำอีสาน และยังมีวัฒนธรรมอีสานสอดแทรกในโชว์ 50 % การลำเรื่องต่อกลอนแบบที่คนยุคก่อนชอบฟัง 

“แต่การเป็นหมอลำที่ลำอย่างเดียว อาจจะไม่ถูกใจคนรุ่นใหม่สักเท่าไหร่ จึงได้มีการปรับตัว มีเพลงอีสานอินดี้ ลูกทุ่ง เกาหลี EDM สิ่งเหล่านี้ทำให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจระเบียบวาทะศิลป์มากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผู้ฟังกลุ่มไหน ทางคณะก็พร้อมที่จะเสิร์ฟความม่วนความจอยให้ทันที”

แม็คกล่าวว่า การปรับตัวทำให้กลุ่มผู้ฟังของระเบียบวาทะศิลป์กว้างกว่าเดิมจากที่เป็นอยู่ คนที่ไม่เคยฟังหมอลำ ก็เริ่มติดตาม เริ่มตามไปที่งานแสดงตามจังหวัดต่างๆ ระเบียบวาทะศิลป์เป็นที่พูดถึงมากขึ้นในกลุ่มคนที่ไม่เคยฟังหมอลำ ณ ปัจจุบัน มีหน่วยงานหลายภาคส่วนติดต่อเข้ามา ไม่ว่าจะมหาวิทยาลัย บริษัทใหญ่ๆ ได้เข้ามาทาบทามไว้แล้ว

ฝากถึงรัฐบาล

แม็คกล่าวว่า ไม่ว่าใครจะก้าวเข้ามาเป็นรัฐบาล อยากให้มองว่าหมอลำเป็นศิลปะที่คนทั่วโลกรู้จัก ต่างชาติเอาเพลงไปคัฟเวอร์ มีการพูดถึงการแสดงในระดับนานาชาติ แต่ปัจจุบันหมอลำถูกจำกัดเวลาในการแสดง จากเลิกเช้า เดี๋ยวนี้ไม่ได้ ถูกสั่งให้เลิกก่อนเวลา มันทำให้ทางคณะไม่สามารถทำการแสดงได้อย่างเต็มที่ และไม่เต็มศักยภาพของคำว่า ‘หมอลำ’ สำหรับการโปรโมต คิดว่าคณะหมอลำเองทำได้ดีอยู่แล้ว รัฐบาลอาจจะไม่ต้องเข้ามาช่วยในจุดนี้ ไม่ต้องการเงินสนับสนุน ขอเพียงแค่มีพื้นที่ให้เราแสดงตามเวลาปกติ โดยไม่มีอำนาจจากส่วนไหนเข้ามาแอบแฝง บังเบียดอาชีพหมอลำ  

“ปัจจุบันหมอลำมีการแข่งขันอยู่แล้ว หลายๆ วง หลายๆ คณะ มีมาตรฐานของแต่ละคณะกันทั้งนั้น เมื่อระเบียบวาทะศิลป์ไปอยู่ในเวทีที่ใหญ่ขึ้น มีคนรู้จักมากขึ้น ลูกค้าหรือผู้ว่าจ้างมองเห็นศักยภาพและไว้วางใจที่จะเลือกระเบียบวาทะศิลป์ ในยุคของโลกที่ทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ มันช่วยให้คณะมีการสื่อสารกับแฟนๆ ตลอด อย่างตัวของแม็ค เริ่มเล่นติ๊กต็อก มีผู้คนมากดูมากมายเวลาไลฟ์สด บางคนรู้ว่าแม็คคือหนึ่งในระเบียบวาทะศิลป์ บางคนไม่รู้ คนดูเขาอาจจะชอบที่เราพูดเก่ง พูดเพราะ น่าสนใจ ตามมาดูที่หน้าเวที มีของขวัญมากให้ ‘โซเชียลมีเดีย’ คือช่องทางสำคัญในการสื่อสารกับแฟนคลับ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่ก็รู้จักกันผ่านมือถือ ยิ่งกว่านั้นคนก็รู้จักหมอลำผ่านโซเชียลมีเดียด้วย อย่างคลิปโชว์เปิดที่เป็นไวรัลในติ๊กต็อก เพลง ไลน์เต้น เครื่องแต่งกาย ผู้คนต่างตั้งคำถาม หมอลำมีการโหนสลิง มีไฮดรอลิก หมอลำมาถึงขนาดนี้แล้วหรอ ทุกอย่างระเบียบวาทศิลป์ น้อมรับและปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา”

มิตรหมอแคน แฟนหมอลำ

ลูกปลา สรายุทธ ดวงตา เจ้าของวิจัย ‘การปรับตัวของหมอลำเรื่องต่อกลอนในยุคโควิด-19’ เปิดเผยว่าไม่ได้เป็นแฟนหมอลำขนาดที่ตามติดไปดูถึงขอบเวที แต่ส่วนใหญ่ดูผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพราะมีการแสดงผ่านการไลฟ์สดในเฟซบุ๊ก จึงได้มีโอกาสดูหมอลำมากขึ้น ลูกปลามองว่าความโด่งดังของหมอลำวงระเบียบวาทะศิลป์นั้นในแวดวงหมอลำ โด่งดังอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ระเบียบวาทะศิลป์โด่งดังในสายตาคนนอกมากขึ้น คือการร่วมงานกันกับกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ในการค้นหาหมอลำ Rising star (การเฟ้นหานางงามเพื่อร่วมงานกับทางระเบียบวาทะศิลป์) จนทำให้มีการจัดแสดงคอนเสิร์ตของวงระเบียบวาทะศิลป์ ทำให้หมอลำสามารถตีตลาดแฟนนางงามได้ จวบจนได้แสดงบนเวทีบิ๊กเมาน์เท่น ระเบียบวาทะศิลป์จึงเป็นวงหมอลำที่เป็นที่รู้จักกันในทุกแวดวง

เช่นเดียวกับ อาชวิชญ์ อินทร์หา เล่าว่าวงหมอลำไม่ว่าจะวงเล็กหรือวงใหญ่คือต้นทุนของแต่ละวง ก่อนจะเล่าไปว่าหมอลำวงไหนแตกต่างกันอย่างไร อย่างแรกวงระเบียบวาทะศิลป์เป็นวงที่มีต้นทุน ทั้งทุนในด้านวัฒนธรรม ทุนทรัพย์และประสบการณ์ หลักๆ ที่มองเห็นคือวงระเบียบวาทะศิลป์ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย สังเกตได้จากดนตรีที่ลื่นไหลมากๆ หมอลำไม่มีอะไรที่มาครอบงำหรือจำกัด วงหมอลำยังเคารพในครูบาอาจารย์ แต่ขณะเดียวกันคำของครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้จำกัดกรอบความคิด จึงทำให้สามารถสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ แตกแขนงออกไปได้ตลอดเวลา ระเบียบวาทะศิลป์กำลังใช้วิธีที่เรียกว่า ‘เปลี่ยนแปลงเพื่ออนุรักษ์’ ไปอยู่บนเวทีเป็น Universal (สากล) อย่างเวทีนางงาม เวที Big Mountain อาชวิชญ์เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนถึงยุครัฐประหาร 2557 ว่าก่อนหน้านั้น ทีป๊อบ อเมริกันป๊อบมันโด่งดังครองใจวัยรุ่นไทยมาก สมัยที่ยังมีการเหยียดกันและกันว่าเป็น ‘ลาว’ ดังนั้นหมอลำในช่วงนั้นก็ถูกเหยียดไปด้วย วัฒนธรรมชายขอบ ผิดแผก ไม่ถูกยอมรับ 

จนกระทั่งปี 2563 ประวัติศาสตร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอย่างกบฏผีบุญ ได้ถูกนำมาเล่า สร้างแรงกระเพื่อมให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจสิทธิความเท่าเทียม เพศ ชาติพันธุ์ คุณค่าของรากเหง้าตัวเอง เกิดความภาคภูมิใจ เด็กในยุคนี้ไม่อายที่จะบอกว่า “กูฟังหมอลำ” ชื่นชอบศิลปินอย่างที่คนอื่นๆ ชอบนักร้องเกาหลี นักร้องตะวันตก ผู้ฟังเปลี่ยนทัศนคติ ภาพลักษณ์ของหมอลำ เพลงอีสาน เริ่มเปลี่ยนไป แต่ก่อนถูกฉายภาพว่าคนอีสานต้องเข้าเมืองกรุงเพื่อหางานเลี้ยงชีพ แต่เดี๋ยวนี้สื่อหลายๆอย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่องไทบ้านเดอะซีรีส์ ฉายภาพบริบทเด็กรุ่นใหม่กับท้องทุ่งนา สะท้อนให้เห็นพื้นที่ของตนมากขึ้น สะท้อนสังคมของเด็กอีสานด้วยกันเอง มันทำให้เห็นจริงๆ ว่าคนอีสานไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่องตัวเองผ่านการไปทำงานในกรุงเทพฯ เสมอไป

อาชวิชญ์ ทิ้งทวนว่า น่าเสียดายว่าไม่มีพรรคการเมืองหรือหน่วยงานไหน มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะสนับสนุน soft power ในไทย รวมไปถึงหมอลำอย่างชัดเจน เพราะหมอลำคืออาชีพที่ทำแล้วมีเงินทองเลี้ยงตนเองได้ หากนั่งคำนวณอย่างถี่ถ้วน จะเห็นว่ามันคือเม็ดเงินมหาศาล แล้วยังเป็นอาชีพที่ดึงคนกลับไปทำงานที่บ้านเกิดตนเอง เพิ่มพื้นที่ เพิ่มโอกาสให้คนมีเงิน แต่ทว่าแสงกลับไม่ส่องถึง soft power อย่างหมอลำเลย

ระเบียบวาทะศิลป์คือ สถาบันผลิตบุคลากรด้านหมอลำทุกรูปแบบ

แม็คเล่าว่า ครูสลา คุณวุฒิ ได้ ‘นิยามความหมาย’ ของ ‘ระเบียบวาทะศิลป์’ ไว้ว่า “คือสถาบันที่ผลิตบุคลากรด้านหมอลำทุกรูปแบบ” หมอลำ นักแสดง แดนเซอร์ ฝ่ายแสงสีเสียง และฝ่ายคอสทูม งานแสดงเกือบสองร้อยงานต่อปีกับวงที่คับคั่งด้วยสมาชิกสองร้อยถึงสามร้อยชีวิต 

“บ้านที่ชื่อว่าระเบียบวาทะศิลป์คือ อาชีพ จวบจนการผลิตบุคลากรให้มีความสามารถ มีทักษะ แม้ว่าใครก็ตามที่ออกไปจากวง แต่ทุกคนก็มีความสามารถที่จะไปประกอบอาชีพต่างๆ ได้ อยู่ในแขนงอาชีพหมอลำ ศิลปินที่โด่งดังในยุคนี้ บางคนก็เคยเป็นศิลปินตัวเล็ก เป็นศิษย์เก่า จากบ้านระเบียบวาทะศิลป์”

บางคนอาจะไม่ยอมรับว่าหมอลำจะสามารถเข้ากับทุกอย่างได้หรือ เด็กอีสานบางคนยังไม่ฟังหมอลำ แต่ระเบียบวาทะศิลป์รู้จักปรับตัวให้ก้าวทันโลกอยู่เสมอ จากที่เคยยืนอยู่ในจุดที่แฟนนางงามไม่ยอมรับว่าหมอลำจะเข้ากับนางงามได้ เพราะคนดู ดูแค่นางงาม แต่ทว่าพอมีเวทีให้แสดงอยู่ตลอด เหมือนเป็นการพิสูจน์ตัวเองว่าหมอลำที่ชื่อว่าระเบียบวาทะศิลป์สามารถเข้าได้กับทุกอย่าง บนเวทีบิ๊กเมาน์เท่น มีศิลปินร่วมแจมมากมาย การเป็นเวทีที่ครองใจคนดู คือรู้ว่าคนดูต้องการดูอะไร และสิ่งนั้นหาได้บนเวทีที่ชื่อว่า ระเบียบวาทะศิลป์